Monday, July 23, 2012

TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS


ผู้สื่อข่าวรายงานค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 31.73/75 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบยังคงเป็นเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป และทิศทางการไหลเข้า-ออกของเงินทุนจากต่างประเทศ ด้านตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในเช้านี้ เนื่องจากที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดวิตกกังวลอีกครั้งว่ากรีซอาจจะไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายเรื่องเงินช่วยเหลือ นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงและอาจหลุด 1,200 จุด จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยชัดเจนซึ่งจะช่วยผลักดันดัชนี อย่างไรก็ตามมองว่าเป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นช่วงตลาดอ่อนตัว เก็งกำไร 9 หุ้นเด่น ได้แก่ CPALL, TIPCO, LPN, TTW และ TICON
บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่าตลาดปรับลงยังเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นทยอยซื้อเพื่อรอรอบรีบาวด์หน้า
แนวโน้ม SET มีสิทธิที่จะปรับพักฐานลงต่อเนื่อง หลังการประกาศเพิ่มทุนฯ ของ PTTEP เมื่อเย็นวันศุกร์เป็นแรงกดดัน ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและวิกฤติหนี้ยูโรโซนยังมีอยู่ หลังมีข่าวว่าเมืองวาเลนเซียได้ขอความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลสเปน ทำให้สเปนอาจต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพิ่มเติม รวมทั้งตัวเลข PMI ของหลายประเทศจะประกาศในสัปดาห์นี้ก็น่าจะกดดันตลาดด้วย อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอก็มีสิทธิที่จะหนุนแรงซื้อเก็งกำไรจากการคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่จะมีออกมา โดยเฉพาะสัปดาห์หน้า (31ก.ค.-1ส.ค.) จะมีการประชุมเฟด ซึ่งคาดว่าความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการ QE3 ยังมีอยู่ ดังนั้น FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนเกือบตลอดสัปดาห์ นอกจากนี้แรงซื้อเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการรายไตรมาสของ บจ.ต่างๆ ก็น่าจะยังมีเข้ามาให้เห็นต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีสิทธิที่จะมีจังหวะดีดกลับขึ้นได้ด้วย ดังนั้นจังหวะอ่อนตัวลงของตลาด เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อสะสมเพื่อถือลงทุนได้อยู่ เพราะสุดท้ายแล้วเรายังคาดหมายว่าแรงซื้อดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้ SET สามารถกลับไปแกว่งขึ้นต่อเนื่องอีกครั้งได้
แนวรับ  1202-1200, 1196-1190 จุด  แนวต้าน 1212-1215, 1220-1228  จุด
กลยุทธ์: ในช่วงตลาดปรับพักฐานลงนี้ เรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อกลับต่อเนื่อง ส่วนหุ้นที่มีอยู่แล้วยังแนะนำให้เน้นถือในกรอบกว้าง เพื่อรอดูจังหวะขายทำกำไรเมื่อ SET ดีดกลับขึ้นไปแถวจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1247 จุด ขณะที่เป้าหมายดัชนีตามพื้นฐานของปีนี้ FSS ยังประเมินไว้ที่ 1350 จุดอยู่
หุ้นเด่นทางเทคนิค  CPALL, TIPCO, LPN (SBL)

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดตลาดหุ้นไทยจะปรับลงมีแนวโน้มหลุด 1,200 จุด เนื่องจากปัญหาที่เพิ่มขึ้นในยุโรปจะกระตุ้นต่างชาติขายต่อ ส่วนปัจจัยในประเทศ พรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่าแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญน่าจะมี 2 ทางได้แก่ทำประชามติก่อนลงวาระ 3 หรือไม่ก็แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งเป็นไปตามที่ KGI ประเมินว่าแนวโน้มทางการเมืองจะไม่มีความรุนแรง และจะไม่เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ ส่วนในวันพุธ (25 ก.ค.) จะมีการประชุม กนง. ของไทย ซึ่งน่าจะตรึงดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.0% และน่าจะมีถ้อยแถลงหลังการประชุมที่มีความกังวลต่อเศรษฐกิจมากกว่าความกังวลต่อเงินเฟ้อ คลายกับการประชุมครั้งก่อน
กลยุทธ์: สำหรับพอร์ตเทรดดิ้ง (ถือหุ้น 0% ณ ปัจจุบัน) ให้ชะลอการลงทุนต่อไป ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นโลกในสัปดาห์นี้ได้แก่ 1) ตัวเลข HSBC Flash PMI ของจีนเดือน ก.ค. ในวันที่ 24 ก.ค. 2) ผลการเข้าตรวจสอบกรีซของ Troika เริ่มวันที่ 24 ก.ค. และ 3) จีดีพีของสหรัฐฯ ไตรมาสที่ 2 (รายงานครั้งแรก) ในวันที่ 27 ก.ค.

บล.กสิกรไทยระบุว่าตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับตัวลดลงเนื่องจากความกังวลวิตกหนี้ยุโรปกลับมาอีกครั้ง หลังปัญหาในสเปนก่อให้เกิดความไม่แน่นอนรอบใหม่ให้กับตลาดเงินตลาดทุนโลก ในช่วงสั้นหรือสัปดาห์นี้ตลาดอาจได้รับปัจจัยบวกจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการประชุมเฟด อย่างไรก็ตามมีมุมมองว่าสหรัฐฯยังน่าจะอยากเก็บกระสุนนัดสำคัญนี้ไว้รับมือกับความผันผวนในตลาดเงินที่อาจเกิดขึ้นในช่วง ส.ค.-ก.ย. และจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการออกมาตรการดังกล่าวอาจอยู่ในช่วง ก.ย.-ต.ค. ซึ่งจะเป็นช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิปดีในเดือน พ.ย. ทั้งนี้ SET Index ถูกผลักดันขึ้นมาเกือบ 130 จุด หรือ 12% ในเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาจึงอาจเริ่มเผชิญความผันผวนและแรงขายทำกำไร SET Index ปรับตัวลงจนใกล้หลุด trailing stop ของเราที่ 1205-1210 ซึ่งหากเกิดขึ้นอาจ trigger แรงขายทำกำไรจากนักลงทุนในกลุ่มที่มีหุ้นทุนต่ำเพื่อ lock กำไร และออกมายืนรอดูสถานการณ์แต่ไม่รีบกลับเข้าซื้อ จะส่งผลให้หุ้นลงแล้วก่อนแล้วเด้งเพราะหวัง QE3 แต่อาจจะเป็นแค่เก็งกำไรช่วงสั้น
กลยุทธ์การลงทุน: ในภาพรวมกลยุทธ์ที่ยังไม่มีปัจจัยผลักดันดัชนีอย่างชัดเจน เราจึงยังไม่เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในขณะนี้และเน้นเก็งกำไรรายตัว แต่หาก SET หลุด trailing stop 1205-1210 นักเก็งกำไรอาจหาจังหวะเข้าเสี่ยงซื้อในบริเวณ 1190+/-5 จุด เพื่อเก็งกำไรฟื้นตัวช่วงปลายสัปดาห์นี้-ต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการเล่นสั้นเท่านั้น ช่วงนี้จึงขอเน้นหุ้นถูก ปันผลสูง หุ้นแนะนำ TTW และ TICON
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10% เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS

No comments:

Post a Comment