Tuesday, October 9, 2012

โบรกแนะเลือกซื้อ 15 หุ้นราคาถูก-กระแสเด่น ดัชนีมีโอกาสไหลลงต่อ สะสมบจ.พื้นฐานแน่นช่วงอ่อนตัว


โบรกแนะเลือกซื้อ 15 หุ้นราคาถูก-กระแสเด่น
ดัชนีมีโอกาสไหลลงต่อ สะสมบจ.พื้นฐานแน่นช่วงอ่อนตัว

วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2555 เวลา 09:54:03 น. 
ผู้เข้าชม : 1404 คน 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.47 น. ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 30.72 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบตามตลาดฝั่งยุโรปและสหรัฐ ซึ่งสะท้อนความกังวลต่อภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีหุ้นไทยเสี่ยงปรับฐานมากขึ้น หลังหลุดแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1300 จุด นักลงทุนรอจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ส่วนนักเก็งกำไรเน้นหุ้นขนาดกลาง เล็กที่ต่ำกว่าพื้นฐาน หรือมีข่าวดีหนุน ได้แก่ SAT, IHL, DSGT, KCAR, ROJNA, RS, SINGER, SNC, TK, SVI, LOXLEY, MK, THCOM, JAS และ SAMTEL ส่วน KTB, QH, STEC, TISCO, CPN และ AOT แนะนำสะสมช่วงปรับฐาน

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ข้อมูลจากการประชุมรมว.คลังยุโรปไม่มีประเด็นใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่าที่ราว 1% สะท้อนความกังวลการปรับลดเศรษฐกิจโลกของ IMF และความกังวลว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมจะอ่อนแอ
สำหรับหุ้นไทยเรามองว่าตลาดก็จะได้รับผลกระทบและน่าจะเห็นการปรับฐานบ้าง (ตามที่เราได้เคยคาดไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วง ก.ย.-ต.ค.) ดังนั้นกลยุทธ์ในช่วงนี้สำหรับผู้ลงทุนที่มีเงินเดือนคือการหาจังหวะทยอยซื้อ LTF/RMF ในขณะที่นักลงทุนก็ทยอยสะสมและรอจังหวะพิจารณาซื้อหุ้น ด้านนักเก็งกำไรจะเริ่มทำงานลำบากขึ้น โดยอาจต้องใช้กลยุทธ์ “ลงซื้อ-ขึ้นขาย” ในจังหวะที่ตลาดปรับลงแรง ในหุ้นที่มีประเด็นรายตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนตลาด โดยเน้นหุ้นที่มีข่าวสนับสนุน หรือมูลค่ายังถูกกว่าหุ้นในกลุ่ม
กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ปิดหลุด 1300 จุด ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาสำคัญลงมา เพิ่มความเสี่ยงการปรับฐานช่วงสั้น โดยเราประเมินตลาดมีแนวรับสำคัญที่ 1260 จุด ในเชิงกลยุทธ์เราให้น้ำหนักการทยอยซื้อตั้งแต่ 1280 ลงมา โดยเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. หุ้นแนะนำวันนี้ LOXLEY TK MK
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเราอยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังความผันผวน ***หากตลาดปรับฐานก.ย.-ต.ค.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมีเดินเรือ และอิเล็กทรอนิกส์ *** สะสม TTA SOLAR ERW AJ KCE
KGI มองตลาดกลับมากังวลเศรษฐกิจ-ผลประกอบการ เน้นแต่หุ้นเล็ก โดยประเมินหุ้นไทยวันพุธอ่อนตัวต่อ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเข้ามาเร็วกว่าที่เราคาดไว้เกี่ยวกับผลประกอบการในสหรัฐฯ โดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกระทบจากการที่หุ้น Intel ถูกปรับลดประมาณการและคำแนะนำ ในขณะที่ บ. Alcoa ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกได้แจ้งกำไรไตรมาส 3 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่บริษัทได้ลดคาดการณ์อุปสงค์อลูมิเนียมโลกจากเดิมโต 7% เหลือ 6% ในปีนี้ เนื่องจากจีนชะลอตัวลง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับไปกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจอีกหลังจาก IMF ได้ลดประมาณการเศรษฐกิจโลกไปเมื่อวานนี้ ส่วนฝั่งยุโรปไม่ได้มีข่าวใหญ่ๆ ออกมา แต่สำนักข่าวต่างประเทศส่วนใหญ่เล่นประเด็นที่ว่านายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่ากรีซยังต้องทำการรัดเข็มขัดเศรษฐกิจและทำงานหนักในการปฎิรูปมากกว่านี้ และส่งผลให้จิตวิทยาในฝั่งยุโรปไม่ดีนัก ภาพรวมในขณะนี้ตลาดกลับมากังวลต่อพื้นฐานเศรษฐกิจและกำไร บจ. และน่าจะถูกกดดันไประยะหนึ่งแต่ด้วยสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่อยู่สูง KGI เชื่อว่าตลาดหุ้นยังอยู่ในทางขึ้นในไตรมาส 4/2555 กลยุทธ์: ดัชนีฯ ยังเสี่ยงลงต่อและเราแนะนำให้เลี่ยงหุ้นใหญ่ต่อไป ทั้งนี้ระดับที่น่าเสี่ยงซื้อกลับในหุ้นใหญ่ คือ 1,270 จุด ส่วนในช่วงนี้ยังเน้นหุ้นขนาดเล็กที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับดัชนีฯ เช่นกลุ่มสื่อสารอย่าง THCOM, JAS และ SAMTEL ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยที่เราแนะนำมาเช่น TISCO*, CPN* และ AOT* แนะนำซื้อช่วงราคาปรับฐาน เนื่องจากพื้นฐานกำไรในครึ่งปีหลังมีความแข็งแกร่ง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ SET ปรับตัวลงต่อช่วยเพิ่ม upside จากเป้า 1350 จุด ดังนั้นเลือกหุ้นซื้อได้!
กลยุทธ์: SET ยังแกว่งพักตัวลงต่อเนื่อง แต่สุดท้ายแล้วยังมีสิทธิที่จะขยับกลับขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายปีนี้ได้ จึงยังแนะนำถือและสามารถเลือกหุ้นเข้าซื้อได้ แต่เนื่องจาก upside เริ่มเหลือน้อยและมีความเสี่ยงจากการขยับขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาจึงเน้นเพียงซื้อเพื่อเทรดดิ้งตามรอบ โดยยังเน้นที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานพอควรซึ่งได้แก่ SAT, IHL, DSGT, KCAR, ROJNA, RS, SINGER, SNC, TK เป็นต้น ขณะที่อาจลุ้นเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวกลับได้ด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค  CPF, SVI, SAMTEL (SBL)
แนวโน้ม ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดร่วงลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังโบรกเกอร์ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นอินเทล และบริษัทอื่นๆ ลงจากความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 3 รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลให้ทั้ง IMF และธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์ GDP โลกลงด้วย ทำให้บรรยากาศการลงทุนเช้านี้ไม่สดใสนัก ซึ่ง FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะยังปรับพักตัวลงต่อได้ อย่างไรก็ตามการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันอาจช่วยให้ SET มีแรงหนุนจากการเข้าซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานได้บ้าง โดยเราคาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายของปีนี้ที่ 1350 จุดได้ในรอบถัดไป ดังนั้นจึงยังเน้นถือต่อเนื่อง และถ้าตลาดอ่อนตัวลงจึงยังมองหาจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งได้อยู่
แนวรับ  1292-1290 , 1286-1270 จุด  แนวต้าน  1298-1302 , 1310-1315 จุด
บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ในกรณีแย่ คาดตลาดรอบนี้มีโอกาสลงไปเทรดในกรอบ 1,260-1,270 จุด โดยให้จับตาผลการประชุม EU Summit และตัวเลข GDP จีนในสัปดาห์หน้า ในขณะที่ 3 วันที่เหลือในสัปดาห์นี้ คาดว่าอาจมีการ Rebound แต่แนวโน้มแกว่งบริเวณ 1,300 +/- ภาพรวมตลาดกลับมาระวังมากขึ้น สำหรับราคาน้ำมันที่ดีดแรงวานนี้เรามองไม่กระทบหุ้นพลังงานมากนักเนื่องจากเป็นปัจจัยระยะสั้นและยังไม่เห็นการฟื้นตัวของ Demand ที่แท้จริง หุ้นที่อ่อนตัวและให้ซื้อ KTB QH STEC (ITD ยังให้ถือต่อ) และยืนยันขาย CPF

No comments:

Post a Comment