Friday, October 5, 2012

'เจริญ Effect' ปรากฏการณ์หุ้น..ทะลุจุดเดือด!!!


วันที่: 2012-10-05 08:59:18
'เจริญ Effect' ปรากฏการณ์หุ้น..ทะลุจุดเดือด!!!

ข่าวลือไม่เคยพลาด! เทคโอเวอร์แล้วหุ้นต้องขึ้น ซื้อบริษัทไหนไม่เคยขาดทุน BJC, SFP, OISHI, UV, SSC, GOLD สร้างปรากฏการณ์หุ้น ทะลุจุดเดือด

สอบถามเซียนหุ้น!!! กับปรากฏการณ์ "เจริญ Effect" เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี จับหุ้นตัวไหนราคา "ทะยาน" ทุกตัว! จนบางครั้งการประเมินมูลค่าหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานไม่สามารถทำได้ด้วย "เหตุผลปกติ" เพราะหุ้นบางตัวขึ้นโดย "ไร้เหตุผล" ถึงขั้น "บ้าเลือด..ทะลุจุดเดือด"  
ปรากฏการณ์ "มา(ขึ้น)ยกแผง" ของหุ้นในเครือเจ้าสัว ที่ผ่านมาข่าวลือ! เข้าเทคโอเวอร์บริษัทไหนแทบไม่เคยพลาด มีควันที่ไหนเดี๋ยวไฟก็มา! หลังจากเทคโอเวอร์เสร็จ "หุ้นขึ้นไม่หยุด" ซื้อบริษัทไหน "มีแต่กำไร" คำร่ำลือเหล่านี้ทำให้ชื่อเจ้าสัวเจริญ "เข้มขลัง" ขึ้นทุกวัน
เอกยุทธ อัญชันบุตร นักลงทุนรายใหญ่ วิเคราะห์ปรากฏการณ์ "เจริญ Effect" ให้ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์กับการ "มายกแผง" ของหุ้นเจ้าสัว ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ยูนิ เวนเจอร์ (UV) แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เสริมสุข (SSC) โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) และ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เพราะก่อนหน้านี้หุ้นที่เคยอยู่ในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (ADVANC, INTUCH, THCOM, CSL และ SC) ก็ "มา" (ทะยาน) กันทุกตัว ฉะนั้นจะ “งง” ทำไม!..หากหุ้นเจ้าสัวจะมาบ้าง
สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องยอมรับก็คือ แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานบริษัทต่างๆ ของเจ้าสัวเจริญจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเลิศ แต่อย่าลืมว่าเขา “รวย” ดังนั้นหุ้นขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด..เอกยุทธ ทิ้งประเด็นให้คิด! พร้อมเสียงหัวเราะออกมา 
เซียนหุ้นรายนี้ กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นในกลุ่มเจ้าสัวเจริญทยอยปรับตัวขึ้นตามกระแสข่าวอย่างน้อย 2-3 เท่าตัว ถามว่าในระยะยาวหุ้นเหล่านั้นจะมีพื้นฐานที่ดีขึ้นใช่หรือไม่? คำตอบคือ “ใช่” สังเกตจากวิธีการเชื่อมต่อธุรกิจภายในอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ถ้าถามว่าวันนี้พื้นฐานเขาดีมากจนต้องรีบซื้อหุ้นใช่หรือไม่? คำตอบ คือ “ไม่ใช่” เพราะไม่มีอะไรโดดเด่นมากมายขนาดนั้น
ถามต่อว่าหุ้นตัวไหนของเจ้าสัว “เด่นที่สุด” เอกยุทธ บอกว่า ถ้ามองระยะยาวส่วนตัวชอบหุ้น BJC หลังจากเจ้าสัวเจริญ เทคโอเวอร์ “เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ” (F&N) สำเร็จ เชื่อว่าเขาจะป้อนงานให้ BJC มากขึ้น วันนี้ต้องยอมรับว่าในหมวดธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้าของ "ทีซีซี กรุ๊ป" (ไม่รวมธุรกิจของไทยเบฟ) มีเพียง BJC ตัวเดียวเท่านั้นที่ทำรายได้โดดเด่นที่สุด เขาต้องต่อยอดธุรกิจตรงนี้
รองลงมาชอบหุ้น UV ลึกๆ ในใจเชื่อว่าเจ้าสัวต้องขายสินทรัพย์ส่วนตัวโดยเฉพาะที่ดินมาให้ UV เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการใหม่ เท่ากับว่าต้นทุนต่างๆ ของบริษัทจะลดลง ยิ่ง UV เข้าไปเทคโอเวอร์ GOLD อาณาจักรก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น ซึ่งนักลงทุนคงต้องติดตามในชอตต่อไป ส่วนหุ้น OISHI เอกยุทธ กล่าวว่า "ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไร" เท่าที่ดูพื้นฐานธุรกิจในอนาคตคงเปลี่ยนแปลงดีขึ้นจากปัจจุบันไม่มาก รู้แต่ว่าราคาหุ้นวันนี้ "แพงมาก" ขึ้นจาก 30-40 บาท มายืน 200 บาท โอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปเยอะๆ จากนี้ท่าทางจะยากแล้ว
เซียนหุ้นรายใหญ่ แนะนำว่า หากนักลงทุนอยากซื้อหุ้นเจ้าสัวในช่วงนี้ ให้เลือกตัวที่ราคาหุ้นยังขึ้นไม่ถึง 100% ซึ่งในความเป็นจริงทุกตัวเลยจุดนั้นไปหมดแล้ว ส่วนตัวจะเชียร์ตัวที่พอจะเห็นแสงสว่างคิดว่าหุ้น UV ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกภายหลังจบดีลเทคโอเวอร์ GOLD ราคาหุ้น UV มีสิทธิทะยานขึ้นไป 10-15 บาท มีโอกาสเหมือนกัน
"อีกตัวที่ผมคิดว่าอนาคตยังเติบโตอีกไกลคือหุ้น BJC หากเจ้าสัวป้อนงานให้มากขึ้นจริงๆ โอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไป 80-100 บาท มีแน่นอน!! แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ส่วนหุ้นตัวอื่นๆ ของเจ้าสัว ผมไม่อยากแนะนำเพราะพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" เอกยุทธ กล่าว
เซียนหุ้นวีไอพอร์ตใหญ่เลข 9 หลัก "โจ" อนุรักษ์ บุญแสวง เจ้าของนามแฝง “โจ ลูกอีสาน” กล่าวถึงหุ้นของเจ้าสัวเจริญว่า ไม่รู้จริงๆ ว่าหุ้นเจ้าสัวพากันวิ่งฝุ่นตลบเป็นเพราะอะไร คิดว่านักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเก็งกำไรโดยอาศัยสตอรี่ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง และเล่นเพราะชื่อของ “เจ้าสัวเจริญ”
คนที่เข้ามาเล่นแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นเหล่านั้นอยู่ตรงไหน จริงๆ ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นตลอด โดยเฉพาะหุ้น UV ซึ่งหุ้นที่มีลักษณะอย่างนี้ไม่ใช่แนวถนัดของนักลงทุน VI แต่คงวิ่งได้ไม่นานเดี๋ยวก็หมดรอบ
ถามว่าหุ้นตัวไหนของเจ้าสัวที่มีพื้นฐานดี และพอลงทุนได้ อนุรักษ์ คิดว่าหุ้น OISHI น่าจะซื้อได้ เสียอย่างเดียวราคา "สูงไปหน่อย" หุ้นตัวนี้ก็มีนักลงทุนแนว VI หลายคนชอบนะ! เพราะการที่เขาปรับตัวมาทำ “ชาบูชิ” ทำให้บริษัทมีกำไรที่ดีขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ธุรกิจอาหารไม่ได้ทำกำไรให้บริษัท แถมยังมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทุกสาขาที่เปิดบริการคนต่อคิวยาวเหยียด “ฮอทพอท” สู้ไม่ได้เลยสักนิด นอกจากนั้นเขายังมีแผนทำโออิชิขวดแก้วอีกด้วย เรียกได้ว่ามีพื้นฐานที่ดีรองรับ    
"รองลงมาน่าจะเป็นหุ้น BJC ผมเชื่อว่า “คุณเจริญ” จะส่งงานให้บริษัททำมากขึ้น หลังเทคโอเวอร์ “เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ” (F&N) เรียบร้อย ส่วนหุ้น UV ผมว่าไม่ค่อยมีอะไรให้นักลงทุนตื่นเต้นเท่าไร ราคาแพงเกินไปแล้ว"
เจ้าของพอร์ตหุ้นเลข 9 หลัก บอกว่า อยากให้จับตาหุ้นอีกตัวของเจ้าสัว นั่นคือ หุ้น อาหารสยาม (SFP) ผู้ผลิตสับปะรดกระป๋องรายแรกของประเทศ ตัวนี้น่าสนใจแต่หลายคนมองข้าม เพราะมีสภาพคล่องน้อยมาก เรียกว่าแทบไม่มีเลยจะง่ายกว่า (หัวเราะ) 
"ผมชอบตรงที่ SFP มีที่ดินมากถึง 10,000 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่แถวจังหวัดระยองและประจวบคีรีขันธ์ หาก “เจ้าสัว” ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นนำที่ดินมาพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมรับรอง “รุ่ง” หากมองพื้นฐานในปัจจุบันของเขาถือว่า “ดีมาก” ข้อ 1.ราคาหุ้นไม่แพง 2.ผลประกอบการขยายตัวทุกปี ยิ่งปีนี้น่าจะดีมาก เพราะตอนนี้ราคาสับปะรดตกต่ำทำให้โรงงานสบายไป" เซียนหุ้นวีไอ แสดงความคิดเห็น

No comments:

Post a Comment